HOME || BACK
 

 

       

   สิ่งมหัศจรรย์ยุคต้น(สมัยโบราณ)อายุตั้งแต่ 5,000 ปี ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 500  

     
เหอประภาคารฟาโรส : The Lighthouse of Alexandria (Pharos)
สถานที่ตั้ง เกาะฟาโรส เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์
ปัจจุบัน ไม่เหลือซาก

ที่มา : http://www.utexas.edu/courses/introtogreece/lect34/lPharosLighthouseAlexandria.jpg


          หลังจากที่ Ptolemy ขึ้นมามีอำนาจเหนืออียิปต์ (เมื่อสิ้นยุคของ Alexander มหาราช) พรงองค์ต้องการให้มีสัญลักษณ์และอุปกรณ์ที่จะช่วยดึงเรือสินค้าทั้งหลายมา สู่ท่าเรือของอเล็กซานเดรีย พระองค์จึงทรงอนุญาตให้สร้างหอประภาคาร Pharos ขึ้นในปี 290 ก่อน ค.ศ. และเสร็จในอีก 20 ปีต่อมา ถือเป็นประภาคารที่สูงที่สุดแห่งแรกของโลก ผู้ออกแบบหอประภาคารแห่งนี้คือ Sostrates แห่ง Knidos ซึ่งภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้ของตัวเองมากและปรารถนาที่จะให้มีชื่อของตนปรากฏ อยู่ในผลงาน แต่กษัตริย์ Ptolemy ที่สองซึ่ง สืบราชสมบัติต่อจากบิดา ปฏิเสธคำขอนี้ เพราะต้องการให้มีเพียงพระนามของพระองค์เท่านั้น Sostrates ผู้แสนฉลาดจึงแอบสลักชื่อของตนเองเอาไว้ แล้วปิดทับไว้ด้วยแผ่นโลหะที่จารึกพระนามของพระองค์
ว่ากันว่า บนยอดของประภาคาร มีกองไฟใหญ่และกระจกโลหะโค้งขนาดมหึมาที่ทำหน้าที่สะท้อนแสงจากกองไฟยักษ์ นี้ให้ส่องเป็นลำออกไปได้ไกลจนแม้แต่เรือซึ่งอยู่ห่างออกไป 100 ไมล์ก็สามารถมองเห็นได้ บ้างก็ว่าบางครั้งก็ใช้ส่องเพื่อเผาเรือของศัตรู และบางตำนานก็ถึงขนาดบอกว่าสามารถจะใช้ส่องขยายภาพของกรุง Constantinople ซึ่งอยู่อีกฟากของทะเลได้

          ประภาคารนี้ทำด้วยหินอ่อนสีขาวสลัลวดลาย วิจิตรงดงาม ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน ท่าเรือของเกาะฟาโรส สร้างในสมัยพระเจ้าปโตเลมีที่สองของอียิปต์ช่วงปี 270 ปีก่อนคริสตกาล ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีกชื่อโซสตราโตส

          ตามหลักฐานคาดว่าประภาคารนี้สูงถึง 440 ฟุต หรือ 134 เมตร ช่วงล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ช่วงกลางเป็นรูปแปดเหลี่ยม และช่วงบนเป็นทรงกลม ยอดบนสุดของประภาคารนี้ มีภาชนะสำหรับใส่ถ่าน ซึ่งลุกโชติช่วงทั้งวันทั้งคืนเพื่อเป็นไฟสัญญาณไฟบนยอดประภาคารนี้เห็นได้ไกลในทะเลเมดิเตอเรเนียนถึง 25 ไมล์ หรือ 40 กิโลเมตร และช่วงบนมีกระจกขนาดใหญ่ ตามตำนานเล่าขานกันมา กระจกนี้สะท้อน เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกรุง
คอนสแตนติโนเปิ้ล ข้ามไปจนถึงภาคตะวันออกของทะเลเมดิเตอเรเนียน และเอเชียไมเนอร์ ยังมีการเล่าต่อกันมาอีกว่ากระจกนี้ยังมอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชสำคัญสะท้อนแสงอาทิตย์ไปเผา เรือศัตรูในทะเล เพราะเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาเหล่านี้ ทำให้ประภาคารแห่งเมืองอเล็กซานเดรียนี้มีชื่อเสียง เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แม้ว่าไม่ใช่ประภารแห่งแรกในทะเลเมดิเตอเรเนียนแต่ก็เป็นอันที่ใหญ่ที่สุด ประภาคารนี้ได้ชื่อมาจากชื่อเกาะที่มันตั้งอยู่คือ ฟาโรส และกลายมาเป็นชื่อเรียกประภาคารในภาษาต่าง ๆ          ประภาคารฟาโรสตั้งตระหง่านนำทางสัญจรของเรือเข้าสู่เมืองอเล็กซานเดรียมาเป็นเวลา 9000 ปี จนกระทั่งพวกอาหรับเข้ายึดครองเมือง ประภาคารก็ถูกรื้อทิ้งไป เล่ากันมาว่พวกอาหรับถูกสายลับซึ่งจักรพรรดิ แห่งคอนสแตนติโนเปิ้ลส่งมาหลอกลวงให้ทำลายประภาคารเสีย เพื่อไม่ให้ใช้มันเป็นประโยชน์ในการเดินเรือของพวกมุสลิม สายลับอ้างว่าข้างใต้ประภาคารมีขุมทรัพย์ฝังอยู่ แต่หลังจากประภาคารถูกทำลายไปแล้วพวกอาหรับถึงตระหนักว่าเสียรู้ ในช่วงนั้นกระจกขนาดใหญ่ก็หล่นร่วงลงมาและแตกละเอียดเป็นผุยผง มีบางส่วนของประภาคารหลงเหลือ และส่วนนี้ก็ยังคงมีอยู่ให้เห็นจนปี ค.ศ. 1375 จนแผ่นดินไหวในเมืองอเล็กซานเดรียพังประภาคารชื่อดังก็ทลายลงมาจนสิ้นซาก