เชื่อกันว่านักกวี และนักดนตรีชาวสเปนชื่อ Vicente Espinel (ซึ่งมีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ. 1551-1624) ได้เพิ่มสายที่ 5 ของกีตาร์ 4 สายคู่  ในเวลานั้นกีตาร์ 6 สายได้เริ่มเข้าไปมีบทบาทในปลายศตวรรษที่ 17 จึงทำให้ Vihuelaค่อยๆ สาบสูญไป   ไม่ปรากฏเป็นที่แน่ชัดว่ามีการเพิ่มสาย (string) ที่ 6 ลงไปในสมัยใด แต่นักประวัติศาสตร์ลงความเห็นว่าน่าจะเกิดขึ้นในราว ค.ศ. 1780 และค่อนข้างมั่นใจว่าเกิดขึ้นพร้อมกันใน 2 ประเทศคือ อิตาลี และ เยอรมันนี แต่ผู้รู้บางท่านให้ข้อคิดว่าน่าจะเกิดการวิวัฒนาการในประเทศฝรั่งเศส (ระยะเวลาที่Chitarra Frances เข้าไปมีบทบาทโดยที่ชาวอิตาเลียนมักจะพูดถึงเครื่องสาย สายเดี่ยว (Single string) โดยไม่คำนึงถึงจำนวนสาย) เชื่อกันว่า Jakob August Ottoชาวเยอรมัน เป็นบุคคลแรกที่ทำกีตาร์ 6 สาย โดยการเพิ่ม คอร์ด ที่ต่ำกว่า คอร์ดE  ในราว ค.ศ. 1790 แต่ในปัจจุบัน มีการยืนยันว่า กีตาร์ 6 สายตัวแรกนั้นน่าจะมีการทำในอิตาลีในกลางศตวรรษที่ 18

                ใน 1800 ประเทศทั่วยุโรป ได้ละทิ้งกีตาร์ ห้าสายคู่ และ กีตาร์ 6 สายคู่ และหันไปให้การสนับสนุนกีตาร์ 6 สายเดี่ยว  ในรัสเซียก็เช่นกัน กีตาร์ 7 สาย ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักกีตาร์ชื่อ Andrei Ossipouitch Sychr (1772-1850) ซึ่งมีTuned (การตั้งเสียง) แบบ  D G B D G B D  และยังคงเป็นที่ชื่นชอบและมีชื่อเสียงอยู่หลายปี ในหลายประเทศทั่วโลก

                Luigi Boccherini (1743-1805) นักแต่งเพลงชาวอิตาเลียนได้ให้แนวคิดและรสนิยมของดนตรีที่ถูกต้อง โดยดัดแปลงให้เหมาะ โดยการรวมเข้าไว้ในส่วนต่างๆ ของกีตาร์ เขาทำในสเปนภายใต้การสนับสนุนของ Marquis de Benavente ซึ่งเป็นนักกีตาร์สมัครเล่นที่มีศรัทธาอย่างแรงกล้า ซึ่งอยู่ในราว ค.ศ.17960  และใน ค.ศ. 1800 Virtuosos ของกีตาร์คลาสสิก 6 สาย ได้เริ่มปรากฏขึ้นในหลายประเทศทั่วยุโรป และเป็นยุคทองยุคแรกของกีตาร์คลาสสิกที่เริ่มเกิดขึ้น

                                                ในเวลาเดียวกัน ยุคทองของกีตาร์ก็เริ่มขึ้นในสเปนและอิตาลี ใน ค.ศ.1775 เช่นกัน การปรากฏของกีตาร์ 6 สายเดี่ยว ตัวแรกเกิดขึ้นในยุคแรกของ ศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีการพัฒนาของเครื่องสาย Fan strutting มีการใช้ลวดลายของไม้เพิ่มเข้าไปในรายละเอียดในส่วนหลังของ Soundboard ของกีตาร์ แนวไม้ไม่เพียงแต่จะช่วยกระจายคลื่นเสียงตาม Soundboard เท่านั้น แต่ยังทำให้Soundboard แข็งแรง มีรูปทรงที่